ขยายภาพคำเตือนซองบุหรี่เริ่ม2ต.ค.ใหญ่ที่สุดในโลก

มติชน ฉบับวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สธ.เตรียมบังคับผู้ผลิต/จำหน่ายบุหรี่ ขยายภาพคำเตือนบนซอง 85% ของพื้นที่ ดีเดย์ 2 ต.ค.นี้ ผ่อนผันล็อตที่ผลิตก่อนวันประกาศ ขายได้ถึง 30 ธ.ค.56

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “จัดกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2556” ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ว่า ปีนี้กำหนดประเด็น รณรงค์ว่า “ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต” และว่า ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ซองบุหรี่ทุกชนิดที่จำหน่ายในประเทศไทยจะต้องเพิ่มพื้นที่ติดภาพคำเตือน ซึ่งเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้พิมพ์ฉลากรูปภาพ และข้อความคำเตือนเกี่ยวกับพิษภัย 4 สี ขนาดไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 บนซองบุหรี่ทั้ง 2 ข้าง ถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

“ประกาศนี้ได้ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน ดังนั้น ผู้ผลิตหรือนำเข้าบุหรี่ซิกาแร็ตทุกราย จะต้องปฏิบัติตามโดยรับต้นแบบภาพที่กรมควบคุมโรค และขณะนี้ สธ.ได้ออกแบบภาพคำเตือนไว้ทั้งสิ้น 10 แบบ เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้นำจัดพิมพ์บนซองบุหรี่คละรูปแบบกัน รวมทั้งให้พิมพ์ช่องทางติดต่อเพื่อการเลิกยาสูบ สายด่วน 1600” นพ.ชลน่านกล่าว และว่า สาเหตุที่ต้องขยายภาพคำเตือนบนซองบุหรี่นั้น เพราะมีผลวิจัยยืนยันว่าการติดภาพคำเตือนจะมีผลต่อทัศนคติความเชื่อของผู้สูบบุหรี่ โดยร้อยละ 71 ทำให้หวนนึกถึงอันตรายของบุหรี่ต่อสุขภาพ ร้อยละ 63 นึกถึงการเลิกบุหรี่ และร้อยละ 80 เกิดแรงผลักดันพยายามเลิกสูบบุหรี่

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคเร่งชี้แจงทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการทุกราย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในแนวเดียวกันทั่วประเทศ โดยผ่อนผันให้บุหรี่ซิกาแร็ตที่ผลิตหรือนำเข้าก่อนวันที่ 2 ตุลาคม 2556 สามารถจำหน่ายได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2556 หากผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ารายใดฝ่าฝืน มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนผู้จำหน่ายที่ไม่แสดงฉลากตามที่กำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกยืนยันว่าบุหรี่เป็นสาเหตุให้ประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคปีละกว่า 6 ล้านคน หรือเฉลี่ยนาทีละ 11 คน ส่วนประเทศไทยเสียชีวิตปีละเกือบ 50,000 คน เฉลี่ย 1 คนในทุก 10 นาที ด้วยโรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งปอด และโรคหัวใจและหลอดเลือด ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ในปี 2554 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่ 11.5 ล้านคน หรือร้อยละ 21.4 ของประชากรวัยนี้ ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดบุหรี่ 9.9 ล้านคน ผู้ชายมีอัตราสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง 20 เท่า ที่สำคัญพบว่าเยาวชนไทย 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่เร็วขึ้น จากในปี 2550 เริ่มสูบอายุเฉลี่ย 16.8 ปี แต่ในปี 2554 เริ่มสูบอายุเฉลี่ย 16.2 ปี