พิมพ์ไทย ฉบับวันที่ 01 – 04 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูรคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสนอแนวคิดให้คนรวยสละสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เพื่อช่วยเหลือคนจน ซึ่งภายหลังกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพออกมาปรับทัศนคติโดยให้เหตุผลว่าระบบบัตรทองไม่ใช่ระบบอนาถา แต่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทย ว่า จริงๆ แนวคิดของนายกฯ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่สะท้อนถึงนายกฯ เข้าใจว่าระบบบัตรทองยังเป็นปัญหาและมีความพยายามที่จะแก้ไข
ทั้งนี้ตั้งข้อสงสัยคือ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ(บอร์ด สปสช.) ด้วยนั้น เข้าใจถึงปัญหาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นถึงแรงจูงใจในการแก้ปัญหางบประมาณรัฐสูงเกินไป รวมไปถึงกรณีโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง โดยพบว่าจะแก้ปัญหาโดยของบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นตลอด ซึ่งสุดท้ายก็จะเป็นภาระต่องบประมาณประเทศ นั่นเป็นเพราะงบประมาณที่ได้มา สปสช.ไม่ได้เป็นผู้จัดหา แต่เป็นรัฐบาลและกระทรวงการคลัง
ศ.นพ.อภิวัฒน์ กล่าวว่า ข้อชี้แจงของ สปสช.ที่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯคือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของมนุษย์ และติดขัดกับกฎหมายที่ว่าสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ส่วนตัวมองว่าหากแนวคิดใดก็ตามที่เป็นทางแก้ปัญหาได้จริง และไม่ส่งผลกระทบ หากขัดกับกฎหมายก็สามารถแก้กฎหมายได้ สำหรับกรณีดังกล่าวมองว่าเบื้องต้นอาจใช้แนวทางการชี้แจงต่อประชาชนให้เข้าใจ เพราะการแก้ปัญหาระบบบัตรทองด้านหนึ่งที่ได้ผลดีคือการทำให้ประชาชนเข้าใจปัญหาและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา โดยบุคลากรทางการแพทย์ต้องชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบว่าโรงพยาบาลมีปัญหาอะไร ขาดทุนเพราะอะไร การเงินขาดสภาพคล่องอย่างไร เชื่อว่าประชาชนที่มีกำลังในการจ่ายค่ารักษา ซึ่งไม่ใช่โรคซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายแพงๆ ก็ยินดีที่จะจ่ายเองมากกว่าใช้สิทธิประเด็นสำคัญคืออย่ากลัวว่าเป็นเรื่องเสียหน้า ที่ต้องยอมรับคือโรงพยาบาลหลายแห่งที่ไม่ขาดทุนก็เพราะมีเงินบริจาคจากประชาชน
“การแก้ปัญหาที่ยากที่สุดคือทำให้ประชาชนตื่นรู้ในเรื่องของระบบบัตรทองผมยืนยันว่าไม่ใช่ระบบบัตรทองไม่ดี เพราะเป็นโครงการที่มุ่งหวังให้คนไทยทั้งประเทศได้รับบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง แต่หากไม่มีการปรับแนวทางการบริหาร สุดท้ายจะสร้างปัญหา จนเกิดความล่มสลายของสาธารณสุขของประเทศ เพราะที่ผ่านมาระบบนี้ให้สิทธิที่สุดโต่งเกินไป
โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลจนทำให้ประชาชนเพิกเฉยต่อการดูแลสุขภาพตนเอง โรงพยาบาลเกิดภาวะขาดทุน ซึ่งประชานิยมลักษณะนี้มองว่าต้องเร่งแก้ไขให้ได้ในรัฐบาลนี้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพราะหากแก้ปัญหาไม่ได้ ต่อให้เป็นรัฐบาลที่เป็นผู้เริ่มโครงการก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้” ศ.นพ.อภิวัฒน์ กล่าวและว่านอกจากนี้ ต้องสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนรู้จักดูแลสุขภาพตัวเอง เช่น จำกัดจำนวนครั้งในการพบแพทย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือปรับเพิ่มค่ารักษาในส่วนของพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่นเพิ่มจาก 30 บาท เป็น 300 บาท หรือ 3,000 บาท สำหรับผู้ป่วยรายใหม่จากการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ติดยาเสพติด มีไข่พยาธิไม้ใบในตับซ้ำซาก โดยประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนมีเวลาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นต้น
หมวดหมู่
- คสช. (61)
- งานส่งเสริมสิทธิ (228)
- จักรยาน (2)
- ทั่วไป (447)
- ธรรมนูญสุขภาพ (1,167)
- 3 กองทุนสุขภาพ (179)
- การเข้าถึงยา (202)
- กำลังคน (257)
- ธรรมนูญพื้นที่ (11)
- บีโอไอ (7)
- ระบบประกันสุขภาพ (300)
- แพทย์แผนไทย ยาไทย (54)
- FTA (26)
- Medical Hub (83)
- ปฏิรูปประเทศไทย (129)
- ระบบสุขภาพ (48)
- สช.เจาะประเด็น (10)
- เขตสุขภาพ (77)
- แถลงข่าวสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 5 พ.ศ.2555 (9)
- HA (1,591)
- 1 ทศวรรษสมัชชา (16)
- การจัดการน้ำ (39)
- ความเหลื่อมล้ำ (6)
- จักรยาน (3)
- ฉลากขนม (39)
- ตรวจสุุขภาพ (25)
- ท้องไม่พร้อม (88)
- นาโนเทคโนโลยี (3)
- นโยบายนักการเมือง (25)
- บุหรี่/ยาสูบ/เหล้า (128)
- ประชุมสมัชชาฯปี55 (20)
- ประธานคจ.สช. (25)
- พรบ.คุ้มครองฯ (71)
- ภัยพิบัติ (50)
- ยาฆ่าแมลง (40)
- หมอกควัน (4)
- อาหารปลอดภัย (76)
- อ้วน/น้ำหนักเกิน (21)
- เด็กเล็ก (57)
- แถลงข่าว NHA 55 ประเด็น สวล. (1)
- แรงงานนอกระบบ (89)
- แร่ใยหิน (409)
- แถลงข่าว_แกรนด์ไชน่า (13)
- NHA57 (30)
- HIA (323)
- ถ่านหิน (36)
- มาบตาพุด (25)
- หวยออนไลน์ (1)
- อาเซียน (3)
- อุตสาหกรรมขยะของเสีย (18)
- เหมืองทองคำที่เลย (12)
- เหมืองแร่เลย (36)
- แผนพัฒนาภาคตะวันออก (2)
- โรงไฟฟ้า ชีวมวล (52)
- PHA (52)
- sirnet (17)